วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ปาฏิหารณ์อิสตันบูล 2005


รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ เดือนพฤษภาคม 2005






ในศึกชิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกรอบชิงชนะเลิศ ปี2005 เป็นหนึ่งในค่ำคืนที่น่าเหลือเชื่อที่สุดของ ลิเวอร์พูล ที่สามารถพลิกเกมกลับมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากที่โดนปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน ออกนำไปก่อนในครึ่งแรก 0-3 ลิเวอร์พูลโดนนำไปก่อนภายในเวลาแค่ 54 วินาทีและดูเหมือนเกมจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของลิเวอร์พูล ในสกอร์3-0 สำหรับครึ่งเวลาแรก คงไม่มีใครคาดคิดว่าลิเวอร์พูลจะกลับมาชนะได้ ค่ำคืนนั้นในสนามอตาเติร์ก สเตเดี้ยม ในเมือง อิสตันบูลเสียง The Kop ตะโกนร้องเพลง You’ll never walk alone ดังกึกก้องทั่วสนาม เพื่อบอกนักเตะว่าเรายังไม่ยอมแพ้และจะอยู่เคียงข้างคุณ

เริ่มเกมครึ่งหลังราฟาเอล เบนิเตสเปลี่ยนตัว ดีดี้ ฮามันท์ลงไปแทนสตีฟ ฟินแน่นที่มีอาการบาดเจ็บและมันก็ได้ผล ประตูปลดล็อคจากลูกโหม่งของ สตีเว่น เจอร์ราร์ดนาทีที่ 54 ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ เจอร์ราร์ดขึ้นโหม่งเต็มศีรษะเป็นประตูให้ลิเวอร์พูลตามมาเป็น 1-3 เสียง The kop โห่ร้องลั่นสนาม  2 นาทีถัดมา ซมิเซอร์ก็ยิงระยะ 25 หลาเข้าประตูไป ลิเวอร์พูลไล่มาเป็น 2-3 นาทีที่ 60 มิลาน บารอสต่อบอลให้เจอร์ราร์ดที่วิ่งทะลุขึ้นมาในกรอบเขตโทษ และเขาก็ถูกทำฟาวล์โดยกัตตูโซ่ และแล้วพวกเขาก็ได้จุดโทษ ซาบี อลอนโซ่ เป็นผู้รับหน้าที่สังหาร เขายิงไปทางมุมซ้ายและดีด้าเซฟได้ แต่เขาก็ยังไวพอที่จะวิ่งเข้าไปซ้ำ และมันเป็นประตู 3-3 วินาทีนั้น The Kopทุกคนแทบบ้าคลั่ง เสียงโห่ร้องยินดีดังลั่นทั่วสนาม ในขณะที่ในใจทุกคนอาจคิดว่านี่คือความฝันหรือเปล่า? แต่นี่คือความจริงทุกคนคงแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น

เกมต้องดำเนินไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ภายในการต่อเวลา30นาที ไม่มีใครสามารถยิงประตูได้ และนำไปสู่การยิงลูกโทษ เจอร์ซี่ ดูเด็คนายประตูของลิเวอร์พูลสวมบทฮีโร่งัดลูกเซพมหัศจรรย์มาปัดป้องลูกยิงจ่อๆของ อังเดร เชพเชนโก้ ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จ รอสโซเนรี่จากเอซี มิลานยิงจุดโทษพลาด และรางวัลสำหรับความพยายามคือถ้วยบิ๊กเอียร์ เป็นของขวัญแก่ลิเวอร์พูลในที่สุด นี่เป็นหนึ่งในแมตช์โกงความตายของลิเวอร์พูลที่สามารถพลิกกลับมาชนะได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากนั้นทุกคนก็เรียกมันว่าปาฏิหารณ์แห่ง"อิสตันบูล"





รายชื่อนักเตะของลิเวอร์พูลประกอบไปด้วย เจอร์ซี่ ดูเด็ค,สตีฟ ฟินแน่น,เจมี คาร์ราเกอร์,ซามี่ ฮูเปีย,ฌิมี่ ตราโอเร่,ชาบี อลอนโซ,หลุยส์ การ์เซีย,สตีเว่น เจอร์ราร์ด,ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่,แฮร์รี่ คีเวลล์,มิลาน บารอส,สก็อต คาร์สัน,โฆเซมี,ดีทมาร์ ฮามันน์,อันโตนิโอ นูเนซ,อิกอร์ บิสคาน,ฌิบริล ซิสเซ่,วลาดิเมียร์ ชมิเซอร์


ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=howkky&month=25-07-2007&group=1&gblog=3

http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2012/03/S11852129/S11852129.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น